23.30 น.       คณะพร้อมกันที่ สนามบินสุวรรณภูมิ ชั้น 4 บริเวณเคาน์เตอร์ T สายการบินเอมิเรตต์ EMIRATE AIRLINE (EK) โดยมีเจ้าหน้าที่ของบริษัทฯ คอยต้อนรับ และอำนวยความสะดวกด้านเอกสาร ออกบัตรที่นั่งและโหลดสัมภาระในการเดินทาง

02.50 น.    ออกเดินทางสู่ ท่าอากาศยานนานาชาติดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เที่ยวบินที่ EK377 (บริการอาหารเครื่องดื่มบนเครื่อง)

06.00 น.    เดินทางถึง ท่าอากาศยานนานาชาติดูไบ เพื่อรอเปลี่ยนเที่ยวบินประมาณ 2 ชั่วโมง 55 นาที (เวลาท้องถิ่นที่ดูไบช้ากว่าประเทศไทย 3 ชั่วโมง)

08.55 น.    ออกเดินทางสู่ เมืองลียง ประเทศฝรั่งเศส โดยเที่ยวบินที่ EK081 (บริการอาหารเครื่องดื่มบนเครื่อง)

13.50 น.     เดินทางถึง สนามบินลียง แซงเต็กซูเปรี ประเทศฝรั่งเศส (เวลาท้องถิ่นของยุโรปช้ากว่าประเทศไทย 5 ชม. ในฤดูร้อน และ 6 ชม. ในฤดูหนาว) หลังนำท่านผ่านด่านตรวจคนเข้าเมือง และรับกระเป๋าเรียบร้อยแล้ว นำท่านเดินทางชม เมืองลิยง (LYON) เมืองหลวงของจังหวัดโรน (Rhone) และยังเป็นเมืองหลวง ของแคว้นโรห์น-อัลป์ (Rhone-Alpe) ซึ่งเป็แคว้นที่ตั้งอยู่บริเวณภาคตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศฝรั่งเศส เป็นเมืองที่ใหญ่เป็นลำดับที่สองของประเทศฝรั่งเศส รองลงมาจากกรุงปารีส เมืองลียงถูกก่อตั้งขึ้นโดยพวกโรมันในคริสต์ศตวรรษที่ 1 จนกระทั่งองค์การยูเนสโก (UNESCO) ได้ประกาศให้เมืองลียงเป็นมรดกโลกในปีค.ศ.1998 นำท่านชม พลาสเดแตร์โร (PLACE DES TERREAUX) จัตุรัสขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่บริเวณใจกลาง เมืองลียง โดยจัตุรัสนั้นได้รับการออกแบบใหม่อย่างสมบูรณ์ในปี 1990

ถ่ายภาพกับ โฮเตลเดอลิยง (HOTEL DE VILLE) หรือศาลากลางเมืองลียง (CITY HALL) โดยอาคารถูกสร้างขึ้นในศตวรรษที่ 17 ปัจจุบันอาคารแห่งนี้ถือว่าเป็นหนึ่งในอาคารเก่าแก่ที่ใหญ่ที่สุดของเมืองลียงอีกด้วย ผ่านชมโรงละครโอเปร่า (OPERA HOUSE) อีกหนึ่งอาคารประวัติศาสตร์ที่ถูกสร้างขึ้นในช่วงปี ค.ศ. 1826

ได้เวลาอันสมควรนำท่านเดินทางสู่เมืองวาล็องซ์ (Valence) (ระยะทางประมาณ 103 กม. ใช้เวลา 1.30 ชม.) ซึ่งเป็นเมืองหลวงของจังหวัดโดรม เป็นจังหวัดที่ตั้งอยู่ในแคว้นโรนาลป์ ประเทศฝรั่งเศส

ค่ำ       บริการอาหารค่ำณ ภัตตาคาร (มื้อ1)

นำท่านเข้าสู่ที่พัก ระดับ 4 ดาว ฝรั่งเศส

เช้า       รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม (มื้อ2)

นำท่านชมเมืองวาล็องส์ และนำท่านถ่ายรูปกับมหาวิหารแห่งเมืองวาล็อง (Cathedral Saint Apollinaire de Valence)  เป็นมหาวิหารในแบบโรมันคาทอลิก สร้างเพื่ออุทิศให้แก่นักบุญ Apollinaris of Valence) ถูกสร้างขึ้นปี 1095 ได้เวลาอันสมควรนำท่านเดินทางสู่เมืองอาวียอง (Avignon) (ระยะทางประมาณ 129 กม. ใช้เวลา 2 ชม.) ที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ฝรั่งเศสและประวัติศาสตร์ยุโรป ด้วยเหตุที่พระสันตะปาปาได้ย้ายจาก กรุงโรมมาประทับอยู่ที่นี่นานถึง 70 ปี เรียกว่าเป็นวาติกันของฝรั่งเศส ทำให้อาวียองกลายเป็นเมือง ศูนย์กลางแห่งศิลปะ วัฒนธรรมยุโรปตั้ง แต่นั้นเป็นต้นมา

จากนั้นนำท่านเข้าชม พระราชวังสมเด็จพระสันตะปาปา (Palais des Papes) เป็นหนึ่งในสถาปัตยกรรมสไตล์กอธิคจากยุคกลางที่สำคัญทีสุดในยุโรป เคยเป็นทีอยู่อาศัยชาวศาสนา คริสต์ตะวันตกเมือสมัยศตวรรษที 14 ปัจจุบันนี้พระราชวัง แห่งพระสันตะปาปาได้กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญของเมืองอาวีญงไปแล้ว โดยมีนักท่องเที่ยวเดินทางมาเที่ยวที่นี่มากกว่า 650,000 คนต่อปี อีกทั้งยังเป็น Convention Centre และ Departmental Archives of Vaucluse อีกด้วย ซึ่งรวมไปถึงศูนย์วิจัยแห่งพระสันตะปาปา ของเมืองอาวีญง (Research Centre on the Papacy of Avignon) จัดขึ้นโดย École Française de Rome จากนั้นนำท่าน ชมทิวทัศน์ สะพานแซงต์เบเนเซ่ต์ (Pont Saint Bénézet) ที่มีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลก จากเพลง ซูร์ เลอ ปองต์ ดาวิญง จากนั้นให้ท่านชมย่านการค้า ย่านเมืองเก่าที่สวยงาม ที่เหมาะแก่การเดินเล่นชมเมืองเป็นอย่างยิ่ง

จากนั้นนำท่านเดินทางสู่หมู่บ้านเลโบ-เดอ โพรวองซ์ (Les Baux de Provence) เมืองโบราณที่ตั้งอยู่บนภูเขาสูง ซึ่งปัจจุบันยังคงรักษาเอกลักษณ์ของบ้านเรือน ชุมชน ตลอดจนศิลปะและวัฒนธรรมโบราณเอาไว้ได้เป็นอย่างดี เป็นหมู่บ้านที่ได้รับคัดเลือกให้เป็น “หนึ่งในหมู่บ้านที่สวยที่สุดในฝรั่งเศส”

เที่ยง        บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร (มื้อ3)

จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองเอ็กซ์ ออง โพรวองส์ (AIX EN PROVENCE) (ระยะทางประมาณ 70 กม. ใช้เวลา 1.15 ชม.) เมืองที่ขึ้นชื่อว่ามีความสวยงามที่สุดเมืองหนึ่งของฝรั่งเศส เดินเล่นชมเมือง เพื่อสัมผัสกับวิถีชีวิตของชาวโพรวองซ์ ชมเมืองที่รุ่งเรืองที่สุดในศตวรรษที่ 17-18 ชมอาคารบ้านเรือน สถาปัตยกรรม โบสถ์วิหาร คฤหาสถ์ต่างๆ รวมทั้ง น้ำพุฟงแตน เดอ ลา โรตอนเด (Fontaine de la Rotonde) น้ำพุที่สวยงามจนได้ชื่อว่า เป็นเมืองน้ำพุพันสาย อันเป็นต้นแบบของเมืองที่ใช้ น้ำพุ ตกแต่งเมืองต่างๆในยุโรป ชมถนนมิราโบ ที่เรียงรายด้วยร้านค้าต่างๆ เลือกซื้อสินค้า ชมเมือง เก่าแก่ที่สวยงามเกินคำบรรยาย

ได้เวลาอันสมควรนำท่านเดินทางสู่เมืองมาร์เซย์ (Marseille) (ระยะทางประมาณ 32 กม. ใช้เวลา 45 นาที) เป็นเมืองท่าแห่งประวัติศาสตร์ที่เก่าแก่ที่สุดในฝรั่งเศส บุกเบิกโดยชาวกรีกมาตั้งแต่ 600 ปีก่อนคริสตกาล ในอดีตเป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจที่สำคัญ ที่เชื่อมระหว่างประเทศแถบชายฝั่งเมดิเตอร์เรเนียนกับประเทศอาณานิคมของฝรั่งเศส ทำให้ผู้คนจากหลากหลายถิ่นกำเนิดอพยพเข้ามาตั้งรกรากกันที่มาร์กเซยตั้งแต่อดีตคนถึงปัจจุบัน

ค่ำ      บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร (มื้อ4)

นำท่านเข้าสู่ที่พัก ระดับ 4 ดาว ฝรั่งเศส

เช้า       รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม (มื้อ5)                                    จากนั้นนำท่านถ่ายรูปกับมหาวิหารนอเทรอดาม เดอ ลา การ์ด (Notre-Dame de la Garde) เป็นโบสถ์ที่เป็นสัญลักษณ์ของเมือง ตั้งอยู่บนเขาซึ่งโดดเด่นเป็นสง่า สถาปัตยกรรมภายในก็เป็นเอกลักษณ์ โดยมียอดเป็นรูปปั้นพระแม่มารีย์สีทอง ยืนอุ้มพระบุตรไว้ในอ้อมแขน “ La Bonne Mère” ซึ่งเชื่อว่า พระแม่คอยดูแลกะลาสี คนเดินเรือชาวประมงและคนทั้งเมือง จากนั้นชมสวน The Palais Longchamp สวนแห่งนี้จึงถูกสร้างขึ้นเพื่อการเฉลิมฉลองที่ไม่ต้องขาดน้ำในการอุปโภคบริโภคอีกต่อไป เป็นสวนสวยใจกลางเมือง ภายในตัวอาคารจะมีรูปปั้นที่แสดงถึงความอุดมสมบูรณ์ เช่น รวงข้าว และพวงองุ่น และมีน้ำพุใจกลางสวน ที่แสดงถึงความชุ่มชื้น และอุดมด้วยน้ำท่านั่นเอง

ชมมหาวิหารมาร์เซย์ (Marseille Cathedral) วิหารแห่งนี้ มีความเป็นเอกลักษณ์ ถูกสร้างขึ้นในช่วงศตวรรษที่ 19 ตัวอาคารมีลักษณะเป็นสถาปัตยกรรมแบบ Byzantine ที่โดดเด่น ภายในมีการตกแต่งด้วยรูปปั้น ที่สวย และสง่างาม บนเพดานจะแขวนเรือลำเล็กๆไว้หลายสิบลำ เพื่ออวยพรนักเดินเรือที่ผ่านไปมาที่ท่าเรือแห่งนี้ จากนั้นอิสระเดินเล่นบริเวณท่าเรือเก่า (The Old Port) ที่ในตอนเช้าจะมีตลาดนัดปลา โดยชาวประมงจะนำปลา และอาหารทะเลมาวางขาย นอกจากนั้นจุดนี้ยังเป็นจุดหลักที่นักท่องเที่ยวต้องมาแวะเยี่ยมชม เพราะเป็นท่าเรือที่มีความสวยงามเรือถูกจอดเรียงราย โดยมีโบสถ์ Notre-Dame de la Garde เป็นฉากหลังสวยงาม ซึ่งเมื่อเดินออกไปจากท่าเรืออีกนิดหน่อย จะเจอ shopping street มีห้างร้าน ทั้งเสื้อผ้าแฟชั่น กระเป๋า รองเท้า แบรนด์ดังและแบรนด์ท้องถิ่นมากมาย

ได้เวลาพอสมควรนำท่านเดินทางสู่เมืองคานส์ (CANNES) (ระยะทางประมาณ 174 กม. ใช้เวลา 2.30 ชม.)  เมืองชาย ทะเลเล็กๆที่มีอากาศอบอุ่นตลอดทั้งปี และเป็นเมืองที่ใช้สถานที่ในการประกวดภาพยนตร์นานาชาติที่โด่งดังไปทั่วโลก

เที่ยง     บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร (มื้อ6)                                          

จากนั้นนำท่านชมเมืองคานส์ เมืองแห่งเทศกาลหนังนานาชาติ ที่จัดขึ้นประมาณเดือนพฤษภาคมของทุกปี หากใครที่คลั่งไคล้ดาราแล้วละก็พลาดไม่ได้ที่กับการวัดรอยมือดาราคนโปรดที่หน้า ปาเล่ เด เฟสติวาล (Palais des Festivals) ที่เหล่าดาราชื่อดังทั้งหลายได้ประทับรอยมือไว้ให้เป็นที่ระลึก เมืองคานส์ ยังเต็มไปด้วยกลิ่นอายแห่งความหรูหราริมชายหาดริเวียร่า และถนนที่ทอดยาวริมชายหาดที่เรียกอีกชื่อหนึ่งว่า ลาโพรมานาด เดอ ลา ครัวเซท (La Promenade de la Croisette) นอกจากนี้ยังมีท่าจอดเรือยอร์ชลำงามๆของบรรดามหาเศรษฐีทั้งหลายด้วย

จากนั้นนำท่านเดินทางสู่เมืองนีช (Nice) (ระยะทางประมาณ 33 กม. ใช้เวลา 45 นาที) เมืองพักตากอากาศทางทะเลที่เรียกว่า เฟรนช์ ริเวียร่า มีชายทะเลที่สวยงาม ซึ่งเริ่มกลายเป็นสถานตากอากาศยอดนิยมของคนอังกฤษ และชาวยุโรปมาตั้งแต่สมัยวิคทอเรีย ซึ่งส่วนใหญ่จะเดินทางมานีส เพื่อการพักผ่อนหย่อนใจ ชายหาดของนีสไม่ใช่หาดทราย แต่จะเป็นหินก้อนเล็กๆที่ไม่คม ซึ่งคือเสน่ห์อีกอย่างหนึ่งของเมืองนีส

ค่ำ        บริการอาหารค่ำณ ภัตตาคาร (มื้อ7)

นำท่านเข้าสู่ที่พัก ระดับ 4 ดาว ฝรั่งเศส

เช้า       รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม (มื้อ8)

นำท่านชมเมืองนีซ เมืองซึ่งอุดมไปด้วยสถาปัตยกรรม และวัฒนธรรมชั้นเยี่ยม ซากปรักหักพัง พิพิธภัณฑ์ ร้านเสื้อผ้า ตลาดกลางแจ้ง ภัตตาคาร อันเป็นสิ่งที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวให้มาเยี่ยมชม ถ่ายภาพกับโบสถ์นอร์ทเทรอดามของเมืองนีซ (BASILQUE NOTRE-DAME DE NICE) เป็นโบสถ์ที่ได้รับการออกแบบสไตล์โกธิคอย่างชัดเจน เคยถูกสร้างขึ้นใหม่จากโครงสร้างเดิมในปี ค.ศ. 1868 จากนั้นนำท่าน ช้อปปิ้งบริเวณจัตุรัสมาสเซนา (Place Massena) บริเวณที่เป็นจุดคมนาคมที่สำคัญแห่งหนึ่ง ที่เต็มไปด้วยร้านแฟชั่น และน้ำหอม อันเป็นที่ตั้งของห้างชื่อดัง Nice Etoile และ Galeries Lafayette อิสระให้ท่านเดินเล่นริมหาดบน ถนนพรอมเมอนาร์ด เดส์ อังเกลส์ (PROMENADE DES ANGLAIS) “ทางเดินของคนอังกฤษ” เนื่องจากเป็นถนนเลียบชายหาดที่สวยงามเหมาะกับการพักผ่อนหย่อนใจ

เที่ยง       บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร (มื้อ9)

นำท่านเดินทางสู่ ราชรัฐโมนาโก (Monaco) (ระยะทางประมาณ 20 กม. ใช้เวลา 45 นาที) หรือ ริเวียร่าแห่งเมดิเตอร์เรเนียนที่ได้ชื่อว่าร่ำรวยอยู่ทางตอนใต้สุดของประเทศฝรั่งเศส เป็นเมืองเล็กๆที่ประชาชนไม่ต้องเสียภาษี ให้ท่านชมทิวทัศน์ที่สวยงามของ ถนนที่ใช้แข่ง F1 ที่สวยที่สุดในโลก และผ่านชมท่าเรือยอร์ช ของบรรดามหาเศรษฐีจากทั่วทุกมุมโลก ชมมหาวิหารซึ่งใช้เป็นสถานที่เก็บพระศพของเจ้าหญิงเกรซ แห่งโมนาโค

ถ่ายรูปกับพระราชวังของราชวงศ์โมนาโค แล้วเชิญท่านอิสระตามอัธยาศัยกับ การชมร้านค้าที่หรูหรา บริเวณคาสิโนสแควร์ หรือเชิญท่านอิสระเสี่ยงโชคในคาสิโนมอนติคาโรที่หรูหรา ที่สุด (การเข้าในสถานที่คาสิโนดังกล่าว ต้องแต่งกายสุภาพ ห้ามรองเท้าแตะ) แล้วเดินทางออกจาก โมนาโค ผ่านบริเวณอิตาเลี่ยน ริเวียร่า ด้วยเมืองเล็กเมืองน้อยเรียงรายตามหน้าผาอย่างสวยงาม ผ่านชมมหาวิหารเซนต์นิโคลัส (St. Nicolas Cathedral) ที่สร้างขึ้นตั้งแต่ปี ค.ศ 1875 ที่เคยใช้จัดงานพระราชพิธีอภิเษกสมรสของเจ้าหญิงเกรซ เคลลี ราชธิดาแห่งโมนาโค

ได้เวลาพอสมควรนำท่านเดินทางกลับสู่เมืองนีช (Nice)

ค่ำ      บริการอาหารค่ำณ ภัตตาคาร (มื้อ10)

นำท่านเข้าสู่ที่พัก ระดับ 4 ดาว ฝรั่งเศส

เช้า     รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม (มื้อ11)

ให้ท่านอิสระตามอัธยาศัย เลือกช้อปปิ้งสินค้าแฟชั่น และน้ำหอม บริเวณห้างชื่อดัง Nice Etoile และ Galeries Lafayette

เที่ยง    อิสระรับประทานอาหารกลางวัน

ได้เวลาอันสมควรนำท่านเดินทางสู่ ท่าอากาศยานนานาชาตินีซ โกต ดาซูร์ หัวหน้าทัวร์คอยอำนวยความสะดวกด้านเอกสาร ออกบัตรที่นั่งและโหลดสัมภาระในการเดินทาง พร้อมอำนวยความสะดวกด้านการขอคืนภาษี

15.55 น.  ออกเดินทางสู่ ท่าอากาศยานนานาชาติดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ โดย สายการบินเอมิเรตต์ EMIRATE AIRLINE (EK)เที่ยวบินที่ EK078 (บริการอาหารเครื่องดื่มบนเครื่อง)

00.10 น.       เดินทางถึง ท่าอากาศยานนานาชาติดูไบ เพื่อรอเปลี่ยนเที่ยวบินประมาณ 2 ชั่วโมง 40 นาที

02.50 น.       ออกเดินทางสู่ สนามบินสุวรรณภูมิ เที่ยวบินที่ EK384

12.30 น.       เดินทางถึง กรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพ  พร้อมความประทับใจไม่รู้ลืม